วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

บัทึลัรีรั้ที่  8

วัพุที่  29  มี  2560

รี  08:30 12:3 น.

นื้ที่ด้รี / รู้ที่ด้รั

โปรแกรมการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program)
แผน IEP
•แผนการศึกษาที่ร่างขึ้น
•เพื่อให้เด็กพิเศษแต่ละคนได้รับการสอน และการช่วยเหลือฟื้นฟูให้เหมาะสมกับความต้องการและควา
มสามารถของเขา
•ด้วยการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก
•โดยระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการใช้แผนและวิธีการวัดประเมินผลเด็ก
การเขียนแผน IEP
•คัดแยกเด็กพิเศษ
•ครูต้องรู้ว่าเด็กมีปัญหาอะไร
•ประเมินพัฒนาการเด็กเป็นระยะ จะทำให้ทราบว่าจะต้องเริ่มช่วยเหลือเด็กจากจุดไหน ในทักษะใด
•เด็กสามารถทำอะไรได้  / เด็กไม่สามารถทำอะไรได้
•แล้วจึงเริ่มเขียนแผน IEP
IEP ประกอบด้วย
•ข้อมูลส่วนตัวของเด็ก
•ระบุว่าเด็กมีความจำเป็นต้องได้รับบริการพิเศษอะไรบ้าง
•การระบุความสามารถของเด็กในขณะปัจจุบัน
•เป้าหมายระยะยาวประจำปี / ระยะสั้น
•ระบุวัน เดือน ปี ที่เริ่มทำการสอน และคาดคะเนการสิ้นสุดของแผน
•วิธีการประเมินผล
ประโยชน์ต่อเด็ก
•ได้เรียนรู้ตามความสามารถของตน
•ได้มีโอกาสพัฒนาตามศักยภาพของตน
•ได้รับการศึกษาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
•ถ้าเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนจะไม่ถูกจัดเข้าชั้นเรียนเฉยๆ
ประโยชน์ต่อครู
•เป็นแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่ตรงกับความสามารถและความต้องการของเด็ก
•เป็นแนวทางในการเลือกสื่อการสอนและวิธีการสอนให้เหมาะกับเด็ก
•ปรับเปลี่ยนได้เมื่อความต้องการเปลี่ยนแปลงไป
•เป็นแนวทางในการประเมินผลการเรียนและการเขียนรายงานพัฒนาการความก้าวหน้าของเด็ก
•ตรวจสอบและประเมินได้เป็นระยะ
ประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
•ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนการเรียนรายบุคคล เพื่อให้เด็กได้พัฒนาความสามารถได้สูงสุดตาม
ศักยภาพ
•ทราบร่วมกับครูว่าจะฝึกลูกของตนอย่างไร
•เกิดความร่วมมือในการพัฒนาเด็ก มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง และใกล้ชิดระหว่างบ้านกับ
โรงเรียน
ขั้นตอนการจัดทำแผนการศึกษารายบุคคล
1. การรวบรวมข้อมูล
•รายงานทางการแพทย์
•รายงานการประเมินด้านต่างๆ
•บันทึกจากผู้ปกครอง ครู และผู้ที่เกี่ยวข้อง
2. การจัดทำแผน
•ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง
•กำหนดจุดมุ่งหมายระยะยาวและระยะสั้น
•กำหนดโปรแกรมและกิจกรรม
•จะต้องได้รับการรับรองแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การกำหนดจุดมุ่งหมาย
•ระยะยาว
•ระยะสั้น
จุดมุ่งหมายระยะยาว
•กำหนดให้ชัดเจน แม้จะกว้าง
       –น้องนุ่นช่วยเหลือตนเองได้
       –น้องดาวร่วมมือกับผู้อื่นได้ดีขึ้น
       –น้องริวเข้ากับเพื่อนคนอื่นๆได้
จุดมุ่งหมายระยะสั้น
•ตั้งให้อยู่ภายใต้จุดมุ่งหมายหลัก
•เป็นพฤติกรรมที่เด็กสามารถทำได้ในระยะ 2-3 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์
จะสอนใคร
พฤติกรรมอะไร
เมื่อไหร่ ที่ไหน (ที่พฤติกรรมนั้นจะเกิด)
พฤติกรรมนั้นต้องดีขนาดไหน
          ใคร  อะไร เมื่อไหร่ / ที่ไหน    ดีขนาดไหน
3. การใช้แผน
เมื่อแผนเสร็จสมบูรณ์ ครูจะนำไปใช้โดยจะใช้แผนระยะสั้น
นำมาทำเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
แยกย่อยขั้นตอนการสอนให้เหมาะกับเด็ก
จัดเตรียมสื่อและจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ต้องมีการสังเกตเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและความสามารถ โดยคำนึงถึง
1.ขั้นตอนพัฒนาการของเด็กปกติ
2.ตัวชี้วัดพื้นฐานที่เกี่ยวกับปัญหาของพัฒนาการเด็ก
3.อิทธิพลของสิ่งแวดล้อมของเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผลต่อการแสดงออกของเด็ก
4. การประเมินผล
•โดยทั่วไปจะประเมินภาคเรียนละครั้ง หรือย่อยกว่านั้น
•ควรมีการกำหนดวิธีการประเมิน และเกณฑ์วัดผล
** การประเมินในแต่ละทักษะหรือแต่ละกิจกรรม   อาจใช้วิธีวัดและกำหนดเกณฑ์แตกต่างกัน**


     วันนี้อาจารย์มีกิจกรรมมาให้นักศึกษาทำคือ  กิจกรรม  " มือของฉัน "กติกาคือ  ให้นักศึกษาวาดรูปมือ
ลายมือของตนด้วยข้างที่ไม่ถนัดให้เหฟมือนที่สุดโดยที่ไม่ดู  เพื่อที่จะดูว่า ของที่อยู่กับเราทุกวันเราจะ
สังเกตและจดจำได้มากเพียงใด พอวาดเสร็จอาจารย์ก็จะคละกันแล้วให้เพื่อนตามหาเจ้าของลายมือ


   กิจกรรมที่  2  กิจกรรม  " วงกลมหลากสี  "อาจารย์ให้นักศึกษานำสีเทียนมาวาดรูปเป็นรูปวงกลมสีอะไร
ก็ได้ตามใจชอบ  แล้วทายนิสัยจากสีที่เราเอามาวาด  ว่าลึกๆแล้วเราเป็นคนยังไง  จากนั้น  ทุกคนก็เอา
ผลงานไปติดที่กระดานหน้าห้องที่ต้นไม้ที่อาจารย์เตรียมมาไว้ให้
ประเมินตนเอง
            ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน  แต่งตัวถูกระเบียบ
        ประเมินเพื่อน  
             เพื่อนๆตั้งใจเรียนและให้ความร่วมมือกับอาจารย์เป็นอย่างดี
       ประเมินอาจารย์
             อาจารย์มีการเตรียมสื่อและเตรียมการสอนมาเป็นอย่างดี  ทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น